ตัวกระตุ้นการเจริญเติบโตที่มีโครงสร้างคล้ายอินซูลิน(insulin-like growth factor-I : IGF-1) หรือโซมาโทมีดิน ซี (somatomedin c)คือเปปไทด์ฮอร์โมน ซึ่งเกิดจากการกระตุ้นของโกรทฮอร์โมน และต่อมใต้สมองส่วนหน้า (anterior pituitary) ให้ IGF-1 ไปออกฤทธิ์ที่อวัยวะเป้าหมาย โดย IGF-1 เป็นฮอร์โมนที่พบในร่างกายมนุษย์และสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ส่วนใหญ่เกิดที่ตับ และอวัยวะอื่นได้แก่ กล้ามเนื้อ ปอด หัวใจ ไต สมอง เซลล์ของกระดูกอ่อน และต่อมเพศ
เปปไทด์ฮอร์โมนที่มีสูตรโครงสร้างคล้ายอินซูลิน มี 2 ชนิด คือ
-IGF-1 ซึ่งมีมากกว่า มีความสำคัญต่อการทำงานของเซลล์ต่างๆ
-IGF-2 จะมีบทบาทสำคัญในการเจริญของทารกในครรภ์มารดา
ฮอร์โมน IGF-1 เป็นฮอร์โมนที่เป็นโปรตีน มีกรดอะมิโนเป็นองค์ประกอบรวม 70 ตัว เราจะพบฮอร์โมน IGF-1 หน้าที่หลักของโกรทฮอร์โมนคือการกระตุ้นให้ตับและเนื้อเยื่อหลั่ง IGF- 1, ซึ่ง IGF-1 นี้จะกระตุ้น เซลล์ของกระดูกอ่อน(cartilage cell or chondrocyte) ทำให้มีการแบ่งตัว ของเซลล ์กระดูกอ่อน นอกจากนี้ยังกระตุ้นการสร้างเนื้อเยื่อก่อนถึงปลายกระดูกที่ปลายกระดูกอ่อน (epiphyseal plate)โดยกระตุ้นการขนถ่ายกรดอะมิโนในการสร้างโปรตีนที่กล้ามเนื้อและเนื้อเยื่ออื่นๆ ทำให้มีการแบ่งตัวเพิ่มจำนวนเซลล์ (hyperplasia) และขยายขนาด (hypertrophy) เพิ่มขึ้น
โดยคุณสมบัติของสาร IGF-1 นั้นล้วนถอดแบบมาจากโกรทฮอร์โมนทุกประการ แต่ที่มีการกล่าวขวัญถึงคุณประโยชน์พิเศษของสาร IGF-1 โดยเฉพาะ มีอยู่ 3 ประการ คือ
- เป็นอาหารสำหรับนักเพาะกาย เพราะ IGF-1 ช่วยเพิ่มขยายขนาดกล้ามเนื้อได้อย่างรวดเร็วมากที่สุดกว่าที่เคยค้นพบ ทั้งยังช่วยเพิ่มพลังงาน พละกำลัง และลดไขมันได้อย่างรวดเร็ว
- เป็นสารช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในกระแสเลือดที่มีประสิทธิภาพสูงคล้ายอินซูลิน โดยปกติตับอ่อนในร่างกายมีเซลล์ตับอ่อน 2 ประเภท คือ
อัลฟ่าเซลล์ : เร่งการเผาผลาญไกลโคเจนที่สะสมภายในตับให้กลายเป็นน้ำตาลกลูโคส เมื่อร่างกายต้องการพลังงาน
เบต้าเซลล์ : เร่งให้ตับแปรสภาพน้ำตาลส่วนเกินในกระแสเลือดให้กลับมาเป็นพลังงานสำรองในตับในรูปของไกลโคเจนด้วยสารอินซูลิน ( Insulin)
ผู้ป่วยที่เป็นโรคเบาหวาน ระบบการทำงานของเบต้าเซลล์จะบกพร่องผลิตอินซูลินได้ลดลง ทำให้น้ำตาลตกค้างในกระแสเลือดมากกว่าปกติ จนปะปนออกมากับปัสสาวะ ( จึงเรียกว่า เบาหวาน คือ ถ่ายเบาออกมามีน้ำตาลปนเปื้อน) ดังนั้น IGF-I มีฤทธิ์คล้ายอินซูลินจึงเป็นสารช่วยควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพนำมาทดแทนการฉีดอินซูลินเข้าไปในผู้ป่วยเบาหวาน
- เป็นสารช่วยซ่อมแซมเส้นประสาท โดย IGF-I จะไปซ่อมแซมเส้นประสาทควบคุมอวัยวะต่างๆ ซึ่งเสียหายจากการบาดเจ็บ หรือสืบเนื่องจากการผ่าตัดหรือป่วยไข้ ถ้าเส้นประสาทภายในกล้ามเนื้อแขนหรือขาถูกตัดขาดจากกัน หมายความถึงการสูญเสียความสามารถควบคุมความเคลื่อนไหวของกล้ามเนื้อ ถึงแม้ว่าโดยธรรมชาติเส้นประสาทจะสามารถเชื่อมต่อได้เองในระดับหนึ่ง แต่ถ้าการตัดขาดรุนแรงหรือยาวกว่า 2-3 มิลลิเมตร อาจหมายถึงการไม่สามารถเชื่อมต่อเส้นประสาทได้อีกเลยอย่างถาวร แต่ IGF-I สามารถซ่อมแซมและเชื่อมต่อเส้นประสาทได้ยาวถึง 6 มิลลิเมตร เป็นความสามารถที่ไม่เคยปรากฎมาก่อน
นักวิทยาศาสตร์ชาวสวีเดนชื่อ ฮันส์อาร์น ฮัสสันส์ แห่งสถาบันประสาทวิทยาที่มหาวิทยาลัยโกเทเบิร์ก พบว่า IGF-I เมื่อใช้ร่วมกับปัจจัยการเติบโตชนิดอื่น เช่น สาร Platelet Derived Growth Factor (PDGF) สามารถร่วมกับประสาทภายในกล้ามเนื้อได้ผลเป็นที่พอใจยิ่ง การศึกษาสภาวะของเซลล์ในห้องทดลอง IGF-I แสดงผลที่เด่นชัดต่อเซลล์ของไขสันหลังที่ทำงานควบคุมความเคลื่อนไหว มันจะเพิ่มความเคลื่อนไหวของเซลล์ในไขสันหลังประมาณ 150-270 เปอร์เซ็นต์ และ IGF-I ยังทำให้ร่างกายมีภูมิต้านทานเพิ่มขึ้นโดยการสร้างเม็ดเลือดขาว B-cell และ T-cell lympocyteเพิ่มขึ้น
จากการวิจัยจากต่างประเทศ ทำให้ทราบว่า IGF-I ทรงคุณค่ามหาศาลต่อมวลมนุษย์ ที่จะช่วยเสริมสร้างสุขภาพและทำให้มนุษย์มีชีวิตยืนยาวขึ้น IGF-I ในเขากวางอ่อน cartilage มีระดับความเข้มข้นสูง แต่ในการบริโภคเขากวางอ่อนต้องคำนึงถึงปัจจัยอื่นๆ เช่น ฮอร์โมนจะสูญสลายไปอย่างรวดเร็วเมื่อได้รับความร้อน หรือการที่ปริมาณความเข้มข้นของ IGF-I ในส่วนต่างๆ ของเขากวางไม่เท่ากัน
จากที่เคยเข้าใจกันมาในอดีต ว่าเขากวางเพิ่มสมรรถภาพทางเพศที่มนุษย์อาจเป็นผลพลอยได้จากการมีสุขภาพดีขึ้นและได้รับแร่ธาตุที่เป็นประโยชน์ เช่น แคลเซี่ยม ฟอสฟอรัส เหล็ก และแร่ธาตุปลีกย่อยบางชนิดที่มีอยู่ในเขากวางอ่อน เพราะฮอร์โมน IGF-I มิใช่ฮอร์โมนเพศ Testosterone
เลือดจระเข้สามารถช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้จริงหรือไม่ ทางผู้วิจัยจึงได้ทดลองก็พบว่า ในเลือดจระเข้สามารถช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดได้ เพราะมี IGF-I อยู่ในเลือดจระเข้ (อ่านวิจัยการบริโภคเลือดจระเข้ที่มีผลต่อเบาหวาน)
อ้างอิง : www.il.mahidol.ac.th, biospray.biz, www.ku.ac.th, riti.knit.or.th
ผลที่ได้ขึ้นอยู่กับสภาพร่างกายของแต่ละบุคคล และ การดำเนินชีวิตในประจำวันที่ถูกต้อง